2. ดนตรี
สาระสําคัญ ความหมาย ความสาํคญั ความเป็นมา วิวฒันาการรูปแบบเทคนิค วิธีการของดนตรีประเภทต่างๆ คุณค่า ความงาม ความไพเราะของดนตรีสากล
ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง อธิบายความหมาย ความสาํคญั ความเป็นมา ของดนตรีสากล เข้าใจถึงต้นกาํเนิด ภูมิปัญญา และการ ถ่ายทอดสืบต่อกันมา ขอบข่ายเนื้อหา เรืองที่ดนตรีสากล เรืองที่ดนตรีสากลประเภทต่าง ๆ เรืองที่ คุณค่าความไพเราะของเพลงสากล เรื่องที ประวัติภูมิปัญญาทางดนตรีสากล
2.1เรื่อง ดนตรีสากล
ดนตรีเกิดขึนมาในโลกพร้อมๆกบัมนุษยเ์รานันเอง ในยุคแรกๆมนุษยอ์าศยัอย่ใูนป่า ในถํ้าและในโพรงไม้ แต่มนุษยก็รู้จักการร้องรําทาํเพลงตามธรรมชาติ เช่นรู้จักปรบมือ เคาะหิน เคาะไม ้ เป่าปาก เป่าเขา และการเปล่งเสียงร้อง เช่น การร้องรําทำเพลงเพื่ออ้อนวอนพระเจ้าให้ช่วยเพือพน้ภยั บนัดาลความสุขความ อุดมสมบูรณ์ต่างๆใหแ้ก่ตน หรือเป็นการบูชาแสดงความขอบคุณพระเจา้ทีบนัดาลใหต้นมีความสุขความสบาย ในระยะแรก ดนตรีมีเพียงเสียงเดียวและแนวเดียวเท่านันเรียกว่า Melody ไม่มีการประสานเสียง จนถึงศตวรรษที 12 มนุษยเ์ราเริมรู้จกัการใชเ้สียงต่างๆมาประสานกนัอยา่งง่ายๆ เกิดเป็นดนตรีหลายเสียงขึนมา ยุคต่างๆของดนตรี นักปราชญ์ทางดนตรีได้แบ่งดนตรีออกเป็นยุคต่างๆดังนี 1. Polyphonic Perio( ค.ศ. 1200-1650 ) ยุคนีเป็นยุคแรก วิวฒันาการมาเรือยๆ จนมีแบบฉบบัและ หลกัวิชาการดนตรีขึน วงดนตรีอาชีพตามโบสถ ์ ตามบา้นเจา้นาย และมีโรงเรียนสอนดนตรี 2. Baroque Period ( ค.ศ. 1650-1750 ) ยุคนีวิชาดนตรีไดเ้ป็นปึกแผ่น มีแบบแผนการเจริญดา้น นาฏดุริยางค ์ มากขึน มีโรงเรียนสอนเกียวกบัอุปรากร ( โอเปร่า) เกิดขึน มีนักดนตรีเอกของโลก 2 ท่านคือ J.S. Bach และ G.H. Handen 3. Classical Period ( ค.ศ. 1750-1820 ) ยุคนีเป็นยุคทีดนตรีเริมเขา้สู่ยุคใหม่ มีความรุ่งเรืองมากขึน มีนกัดนตรีเอก 3 ท่านคือ Haydn Gluck และMozart 4. Romantic Period ( ค.ศ. 1820-1900 ) ยคุนีมีการใชเ้สียงดนตรีทีเน้นถึงอารมณ์อย่างเด่นชัดเป็นยุค ทีดนตรีเจริญถึงขีดสุดเรียกว่ายคุทองของดนตรี นกัดนตรีเช่น Beetoven และคนอืนอีกมากมาย 5. Modern Period ( ค.ศ. 1900-ปัจจุบนั ) เป็นยุคทีดนตรีเปลียนแปลงไปมาก ดนตรีประเภทแจ๊ส (Jazz) กลบัมามีอิทธิพลมากขึนเรือยๆจนถึงปัจจุบนัขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละชาติ ศาสนา โดยเฉพาะ ทางดนตรีตะวนัตก นับว่ามีความสัมพนัธ์ใกลช้ิดกับศาสนามาก บทเพลงทีเกียวกับศาสนาหรือเรียกว่า เพลงวดันัน ไดแ้ต่งขึนอยา่งถกูหลกัเกณฑ ์ ตามหลกัวิชาการดนตรี ผแู้ต่งเพลงวดัตอ้งมีความรู้ความสามารถสูง เพราะตอ้งแต่งขึนใหส้ามารถโนม้นา้วจิตใจผฟู้ังใหน้ิยมเลือมใสในศาสนามากขึน ดงันันบทเพลงสวดในศาสนา คริสตจ์ึงมีเสียงดนตรีประโคมประกอบการสวดมนต ์ เมือมีบทเพลงเกียวกบัศาสนามากขึน เพือเป็นการป้องกนั การลืมจึงไดม้ีผปู้ระดิษฐส์ญัลกัษณ์ต่างๆแทนทาํนอง เมือประมาณ ค.ศ. 1000 สัญลกัษณ์ดงักล่าวคือ ตวัโน้ต ( Note ) นันเอง โน้ตเพลงทีใชใ้นหลกัวิชาดนตรีเบืองตน้เป็นเสียงโด เร มี นั้น เป็นคาํสวดในภาษาละติน จึงกล่าวได้ว่าวิชาดนตรีมีจุดกาํเนิดมาจากวดัหรือศาสนา ซึงในยโุรปนันถือว่าเพลงเกียวกบัศาสนานันเป็นเพลง ชันสูงสุดวงดนตรีทีเกิดขึนในศตวรรษตน้ๆจนถึงปัจจุบัน จะมีลกัษณะแตกต่างกนัออกไป เครืองดนตรีทีใช้ บรรเลงก็มีจาํนวนและชนิดแตกต่างกนัตามสมยันิยม ลกัษณะการผสมวงจะแตกต่างกนัไป เมือผสมวงดว้ย เครืองดนตรีทีต่างชนิดกนั หรือจาํนวนของผบู้รรเลงทีต่างกนัก็จะมีชือเรียกวงดนตรีต่างนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น